ทำไมต้องใช้ออกซิเจนบำบัดที่บ้าน

คำตอบก็คือ ผู้ป่วยรายนั้นมีภาวะพร่องออกซิเจน ภาวะนี้เกิดจากหลายโรคด้วยกันเกิดได้ทั้งจากโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบโลหิต ฯลฯ เมื่อภาวะพร่องออกซิเจนเกิดขึ้น ปกติหมอจะแก้ที่ต้นเหตุของการเกิดภาวะพร่องออกซิเจนก่อน นั่นคือเมื่อมีภาวะพร่องออกซิเจนก็แสดงว่าร่างกายของเราได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอในนำไปสร้างพลังงานนั่นเอง ดังนั้นก็ต้องมาดูว่าร่างกายขาดออกซิเจนได้ไง

ปกติออกซิเจนจะมีอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป เมื่อเราหายใจเอาอากาศเข้าร่างกายเราจะคัดแยกเอาออกซิเจนไปใช้ที่ถุงลมในปอด เลือดดำที่นำเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มา จะนำมาแลกเอาออกซิเจนที่ผนังของถุงลม ดังนั้นถ้าหากมีอะไรมาอุดกั้นทางเดินหายใจของเรา อากาศไม่เข้าไปที่ปอดก็จะไม่มีออกซิเจนไปให้เลือดได้ หากเกิดอาการแบบนี้ คุณหมอก็จะหาวิธีการไม่ให้ทางเดินหายใจของเราถูกอุดกั้น อีกอาการหนึ่งเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิต เช่นเส้นเลือดตีบ เลือดไม่สามรถนำออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้ ถ้าเส้นเลือดตีบร่างกายของเราก็เลือดของเราก็จะเดินทางช้า ทำให้บริเวณถุงลมของปอดมีเลือดไม่พอขนออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย  ภาวะพร่องออกซิเจนลักษณะนี้หากแก้ที่ต้นเหตุได้ก็หายได้ แต่ถ้ามันเป็นเรื้อรังล่ะ เช่น ถุงลมโป่งพอง คอเรสเตอรอลในเลือดสูง ฯลฯ ทางเลือกก็คือ ออกซิเจนบำบัดนั่นเอง การใช้ออกซิเจนบำบัดก็เหมือนกับการรับประทานยา การรับประทานยาตรงตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอก็ทำให้การควบคุมโรคดีขึ้น เช่นเดียวกับออกซิเจน หากภาวะพร่องออกซิเจนหายไปแพทย์ก็จะสั่งให้หยุดใช้เอง

โรคที่ต้องใช้ออกซิเจนบำบัดที่บ้าน

โรคที่ต้องใช้ออกซิเจนบำบัดที่บ้าน เช่น

– โรคหอบหืด เกิดจากการหดตัวหรือตีบตันของช่องทางเดินหายใจ ทำให้อากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง   ซึ่งเป็นผลจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม

อาการ ผู้ป่วยจะรู้สึกเหนื่อยหอบ  ไอ  หายใจมีเสียงหวีดๆ หายใจไม่สะดวก  แน่นหน้าอก  อาการจะกำเริบมากในช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้ามืด   ทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ

– ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) คือ ภาวะที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ รวมไปถึงเลือดในร่างกายมีออกซิเจนไม่เพียงพอ เซลล์เนื้อเยื้อต่างๆไม่สามารถนำออกซิเจนไปใช้ได้ สาเหตุเกิดจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะทำให้เกิดการพร่องออกซิเจนในเลือดก่อน มักจะมาควบคู่กับการคั่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายเนื่องมากจากร่างกายไม่สามารถขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกได้ดีพอ

อาการ ผู้ป่วยจะรู้สึกมึนงง เวียนหัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้  มือเท้าชา ตาพร่ามัว หายใจหอบลึก มือเท้าเขียว สับสน กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน

– โรคถุงลมโป่งพอง  คือ ภาวะที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ

อาการ ระยะแรก คือ มีไข้ ไอเล็กน้อย  มีเสมหะ  เป็นหวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ และต่อมาก็จะหอบเหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีด ๆ หายใจลำบากมากขึ้น หลอดลมตีบขึ้นและในช่วงระยะสุดท้ายที่ผู้ป่วยเป็นมาก ๆ ก็จะทำอะไรไม่ได้เลย

– COPD หรือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ โรคปอดอื่นๆ

error:

เมนูหลัก